หน้าแ... > ความร... > บทควา... > 7 โรค... > 7 โรคพืชผักที่เกิดเชื้อแบคทีเรีย 4021 จำนวนผู้เข้าชม 7 โรคพืชผักที่เกิดเชื้อแบคทีเรีย ฤดูฝนนี้เป็นฤดูกาลที่โรคพืชหลายชนิดแพร่ระบาดได้ดีโดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่ชอบสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง และน้ำฝนจะช่วยทำให้โรคแพร่กระจายได้ดี พืชผักจัดเป็นพืชอีกกลุ่มที่เป็นโรคที่เกิดเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด ดังต่อไปนี้ 1. โรคเน่าเละของพืชผัก (Bacterial soft rot) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Pectobacterium carotovorum subsp. carotovorum อาการของโรค เริ่มต้นพืชจะแสดงอาการฉ่ำน้ำ ต่อมาแผลฉ่ำน้ำจะเน่าเละยุบตัวลุกลามขยายเป็นบริเวณกว้าง มีเมือกเยิ้ม ส่งกลิ่นเหม็น อาการของโรคจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในสภาพอากาศร้อนจัดและมีฝนชุก โรคนี้นอกจากสร้างความเสียหายในแปลงปลูกแล้ว ยังทำให้พืชผักเสียหายระหว่างการขนส่ง และรอจำหน่ายเป็นจำนวนมาก การจัดการโรค ไถพลิกกลับดินตากแดด เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคในดิน การอบดินฆ่าเชื้อโรคด้วยยูเรียกับปูนขาวในอัตรา 80 กก. : 800 กก. ต่อไร่ เป็นเวลา 7-10 วันก่อนปลูกพืช ทำการควบคุมแมลงศัตรูพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะหนอนหรือแมลงปากกัดในแปลงปลูก 2. โรคเหี่ยวของมะเขือเทศ (Bacterial wilt) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum อาการของโรค ต้นมะเขือเทศมีอาการเหี่ยวลู่ลงมาทั้งต้นในขณะที่ใบยังมีสีเขียว ท่อน้ำท่อลำเลียงจะ๔กทำลายเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมื่ออาการรุนแรงจะทำให้ตายในที่สุด เมื่อนำต้นที่มีอาการเหี่ยวมาตัดตามขวางจะมีของเหลวสีขาวขุ่น (bacterial ooze) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียไหลออกมาจากรอยตัด การแพร่ระบาด เชื้ออาศัยอยู่ดินและติดไปกับส่วนขยายพันธุ์พืชต่างๆ โดยเฉพาะส่วนขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เช่น ท่อนพันธุ์ หัว แง่ง หรือ หน่อ เป็นต้น เข้าทำลายพืชได้ดีผ่านทางบาดแผลบริเวณระบบราก พบมีความสัมพันธ์กับการระบาดของไส้เดือนฝอยรากปม (root knot nematode) โดยถ้ามีการระบาดของไส้เดือนฝอยรากปมจะทำให้มีการเป็นโรคเหี่ยวรุนแรงมากขึ้น การจัดการโรค ไถพลิกกลับดินตากแดดหลายๆ ครั้งเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อในดิน เตรียมดินให้มีการระบายน้ำได้ดี การอบดินฆ่าเชื้อด้วยการใช้ยูเรียกับปูนขาว อัตรา 80 กก. :800 กก.ต่อไร่ เป็นเวลา 7-10 วันก่อนปลูกพืช การคควบคุมแมลงศัตรูพืชและไส้เดือนฝอยรากปมในแปลงปลูก การปลูกพืชหมุนเวียน 3. โรคขอบใบทองหรือเน่าดำของพืชตระกูลกะหล่ำ (Bacterial leaf blight หรือ Black rot) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas campestris pv. campestris อาการของโรค ที่ใบจะมีอาการเหลืองจากขอบใบแล้วลามเข้ามาในใบเป็นรูปตัววี (V shape) เส้นใบบริเวณนี้จะมีสีน้ำตาลดำ ต่อมาบริเวณที่เป็นโรคเนื้อเยื่อจะแห้งตาย เมื่อตัดลำต้นตามขวางจะพบว่าส่วนที่เป็นท่อน้ำ (xylem) มีสีดำ การแพร่ระบาดเชื้อโรคสามารถติดไปกับเมล็ดพันธุ์ (seed borne) ซึ่งต้นกล้าที่เป็นโรคจะแพร่ไปยังต้นกล้าอื่นในแปลงเพาะกล้า แล้วแพร่กระจายโดยน้ำฝน หรือระบบน้ำ การจัดการโรค เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ปลอดโรค การปลูกพืชหมุนเวียน 4. โรคใบจุด หรือผลจุดของมะเขือเทศ (Bacterial spot) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas euvesicatoria หรือ X. perforans อาการของโรค มะเขือเทศจะแสดงอาการใบจุดเล็กๆ รูปร่างไม่แน่นอนสีน้ำตาลอ่อนต่อมาจะกลายเป็นสีน้ำตาลดำ จนถึงดำแผลอาจมีการขยายใหญ่ขึ้น เมื่อเป็นโรครุนแรงมากใบจะร่วง อาจพบลักษณะอาการจุดแผลบนลำต้นเป็นสะเก็ดสีน้ำตาลดำ และที่ผลมะเขือเทศจะมีอาการเป็นจุดสะเก็ดสีน้ำตาลดำถึงดำมีขนาด 2-8 มม. การแพร่ระบาด เชื้อติดไปกับเมล็ดพันธุ์ (seed borne) และแพร่กระจายโดยน้ำฝน หรือระบบน้ำ การจัดการโรค ใช้เมล็ดพันธุ์ปลอดโรค หรือพันธุ์พืชต้านทานโรค ทำความสะอาดแปลงปลูกเพื่อกำจัดเศษซากพืชเป็นโรคไปทำลายนอกแปลงปลูก การป้องกันกำจัดด้วยสารป้องกันกำจัดโรค เช่น copper hydroxide เป็นต้น 5. โรคแคงเกอร์ของพืชตระกูลส้ม (Bacterial canker) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas citri subsp. citri อาการของโรค อาการโรคส่วนมากเกิดกับใบอ่อน โดยระยะเริ่มต้นเกิดแผลจุดฉ่ำน้ำขนาด 1-3 มม. ต่อมาจุดขยายใหญ่ขึ้นนูนฟูสีเหลืองอ่อน แผลเกิดได้บนใบทั้งสองด้าน ต่อมาแผลนูนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและยุบลง กลายเป็นเป็นสะเก็ดแข็งและผิวขรุขระมีสีเหลืองล้อมรอบแผล ขนาดของแผลจะแตกต่างกันไปตามชนิดพืชตระกูลส้ม และสภาพแวดล้อม อาการสามารถเกิดกับส่วนต่างๆ ได้แก่ กิ่ง ลำต้น และผล การแพร่ระบาด เชื้อสามารถแพร่กระจายไปกับลมฝน หรือการให้น้ำ โดยแหล่งของเชื้อตั้งต้นจะมาจากแผลเก่าบน ใบ กิ่ง หรือลำต้น เชื้อเข้าสู่พืชทางช่องเปิดธรรมชาติของพืช เช่น ปากใบ หรือเข้าทำลายทางบาดแผลซึ่งเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น แผลเนื่องจากหนามเกี่ยวใบ หรือแผลจากการทำลายของหนอนชอนใบส้ม เป็นต้น การจัดการโรค ใช้ส่วนขยายพันธุ์หรือกิ่งพันธุ์ที่ไม่มีโรคมาปลูก โดยเฉพาะในแหล่งปลูกใหม่ ทำการตัดแต่งกิ่งและส่วนที่เป็นโรคที่ใบ กิ่ง และลำต้น ทิ้ง ทำการให้บังคับการแตกใบอ่อนออกเป็นรุ่นเดียวกัน เพื่อจะทำให้การฉีดสารป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพ ปลูกพืชเป็นแนวกันลมรอบสวน เพื่อลดการเกิดแผลซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อเข้าทำลาย การควบคุมแมลงศัตรูโดยเฉพาะหนอนชอนใบ ซึ่งจะทำให้เกิดบาดแผลในช่วงใบอ่อน เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ การใช้สารป้องกันกำจัดโรค เช่น copper oxychloride copper hydroxide หรือ bordeaux mixture พ่นช่วงที่แตกใบอ่อน 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรค 6. โรคใบจุดนูนของถั่วเหลือง (Bacterial pustule) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas axonopodis pv. glycines อาการของโรค ที่ใบเกิดแผลมีลักษณะตุ่มนูนสีเขียวอ่อนขนาดประมาณ 1 มม. ต่อมาตุ่มจะแห้งและยุบตัวลง เปลี่ยนเป็นแผลจุดสีน้ำตาลมีขอบสีเหลืองล้อมรอบจุดแผลซึ่งจะเห็นชัดเจนด้านบนใบ แผลสามารถขยายลุกลามถึงกันทำให้เกิดอาการคล้ายใบไหม้ ถ้าอาการรุนแรงมากจะทำให้ใบร่วง นอกจากจะเกิดอาการกับใบแล้วอาจจะพบแผลจุดสีน้ำตาลที่ส่วนของลำต้น ก้านใบหรือฝักได้ การแพร่ระบาด เชื้อสามารถแพร่กระจายโดยอาศัยลม ฝน หรือระบบน้ำ การจัดการโรค ใช้พันธุ์ถั่วเหลืองที่ต้านทานโรค เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่มาจากแหล่งที่ไม่เคยมีโรคระบาด กำจัดเศษซากพืช และวัชพืชบริเวณแปลงปลูก เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยอยู่ข้ามฤดูของเชื้อ คลุกเมล็ดด้วยสารป้องกันกำจัดโรค เช่น thiram เป็นต้น 7. โรคต้นเน่าของข้าวโพด (Bacterial stalk rot) สาเหตุของโรค เชื้อแบคทีเรีย Dickeya zeae อาการของโรค อาการส่วนมากเกิดบริเวณโคนต้น มีอาการเน่าหรือลำต้นเน่าฉ่ำน้ำ รอยช้ำมีสีน้ำตาลแดงถึงน้ำตาลเข้ม มีเมือกเยิ้ม และมีกลิ่นเหม็น ทำให้ใบแห้งเหี่ยว ต้นเหี่ยวหรือหักพับลงมา โรคนี้ถ้าระบาดมากจะทำให้ผลผลิตเสียหายเป็นอย่างมาก การป้องกันกำจัดโรค ถอนต้นเป็นโรคออกทิ้งนอกแปลง การเตรียมแปลงที่มีการระบายน้ำได้ดีน้ำไม่ท่วมขัง หลีกเลี่ยงการปลูกพืชหนาแน่นและการให้ปุ๋ยไนโตรเจนในอัตราที่สูง การปลูกพืชหมุนเวียนในแหล่งที่เคยมีโรคระบาด เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง โรคเมล็ดด่างในนาข้าวโรคเมล็ดด่างเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อหลายชนิด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้า… ฮอร์โมนพืชคืออะไร?ฮอร์โมนพืชเป็นสารอินทรีย์ที่มีความสำคัญยิ่งต่อกระบวนการเจริญเติบโตของพืช ทั้งการ… 4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง โรคราแป้งขาวแตงกวา (Powdery mildew) โรคราน้ำค้า… เฮียครับ เอา“ยาคุมไข่” ด้วยนะ เกษตรกรหลายๆท่านคงเคยได้ใช้คำพูดนี้กับเวลาที่ไปซื้อสารกำจัดแมลงตามร้านจำหน่ายส…