14878 จำนวนผู้เข้าชม

หลายครั้งมักจะได้ข่าวว่า “แมลงดื้อยา” และ “วัชพืชดื้อยา” แต่น้อยครั้งที่จะได้ข่าว “เชื้อราดื้อยา” วันนี้ไอซีพี ลัดดา มีข้อมูลมาแชร์เกี่ยวกับ “การใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราที่มีความเสี่ยงในการดื้อยา” มาเริ่มกันเลย
โอกาสดื้อยาสูง จะอยู่ในกลุ่มรหัส 1, 4, 11, 25 และ 41
โอกาสดื้อยาปานกลาง-สูง จะอยู่ในกลุ่มรหัส 2, 7, 21, 24 และ 45
โอกาสดื้อยาปานกลาง จะอยู่ในกลุ่มรหัส 3, 8, 9 ,13, 16.2, 19 และ 24
โอกาสดื้อยาต่ำ-ปานกลาง จะอยู่ในกลุ่มรหัส 5, 6, 12, 14, 17, 22, 23, 27, 28, 29 , 30 และ 40
โอกาสดื้อยาต่ำ จะอยู่ในกลุ่มรหัส 33 และ 38
และมีบางสารที่ยังไม่ทราบโอกาสดื้อต่อเชื้อรา เช่น กลุ่มรหัส 10, 16.1, 18, 20, 26, 31, 32, 34, 35, 36, 37, 38, 42, 43, 44 และ 46
สารประเภทสัมผัส ที่มีวิธีการออกฤทธิ์ต่อเชื้อหลายจุด ในกลุ่มรหัส M ต่างๆ ยังไม่มีรายการการดื้อต่อเชื้อสาเหตุโรคพืชเลบ
สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีความเสี่ยงต่อการดื้อของเชื้อราได้ถูกจัดจำแนกไว้มีทั้งสิ้น 70 กลุมรหัส แต่ขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนไว้เพื่อผลผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยจำนวน 27 กลุ่มรหัส
ข้อมูลที่แสดงต่อไปนี้ เป็นรายการของสารป้องกันกำจัดโรคพืชที่ได้ขึ้นทะเบียนเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งถูกจัดจำแนกตามวิธีการออกฤทธิ์ (mode of action) ตามระบบของ FRAC แต่จะกล่าวถึงเฉพาะกลุ่มรหัส (code group)
กลุ่มที่ 1 รบกวนการสังเคราะห์กรดนิวคลิอีก (Nucleic acids synthesis)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
เมตาแลกซิล
4
สูง
เมตาแลกซิล เอ็ม
4
สูง
เมตาแลกซิล
32
ยังไม่ทราบ
กลุ่มที่ 2 รบกวนการขยายพันธุ์แบบไม่มีเพศและแบ่งเซลล์ (Mitosis and cell division)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
เบโนมิล
1
สูง
คาร์เบนดาซิม
1
สูง
ไทโอฟาเนทเมทิล
1
สูง
เพนไซคูรอน
20
ยังไม่ทราบ
อีทาบ็อกแซม
20
ต่ำ-ปานกลาง
ฟลูโอปิคลอไรด์
43
ยังไม่ทราบ
กลุ่มที่ 3 รบกวนขบวนการหายใจ (Respiration)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
ฟลูโอไพแรม
7
ปานกลาง
คาบ๊อกซิน
7
ปานกลาง
อะซ๊อกซีสโตรบิน
11
สูง
ไพราโคลโตรบิน
11
สูง
ครีโซซิมเมทิล
11
สูง
ไตรฟล๊อกซีสโตรบิน
11
สูง
ฟาม๊อกซาโดน
11
สูง
ไซยาโชฟามิด
21
ยังไม่ทราบแน่ชัด
กลุ่มที่ 4 รบกวนขบวนการสังเคราะห์กรดอะมิโนและโปรตีน (Amino acid and protein synthesis)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
คาซูกะมัยซิน
24
ปานกลาง
กลุ่มที่ 5 รบกวนกระบวนการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ (signal transduction) ของเชื้อรา
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
ไอโพรไดโอน
2
ปานกลาง-สูง
โพรไซมิโดน
2
ปานกลาง-สูง
กลุ่มที่ 6 รบกวนสังเคราะห์ไขมันและทำให้ผนังเซลล์ไม่สมบูรณ์ (Lipid synthesis and membrane integrity)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
ไอโซไพรไทโอเลน
6
ต่ำ-ปานกลาง
ไดคลอแรน
14
ต่ำ-ปานกลาง
เอทริไดอาโซล
14
ต่ำ-ปานกลาง
ควินโทซีน
14
ต่ำ-ปานกลาง
โพรพาโมคาร์ปไฮโดรคลอไรด์
28
ต่ำ-ปานกลาง
กลุ่มที่ 7 รบกวนการสังเคราะห์สเดอโรลในผนังเซลล์ (Sterol biosynthesis in membranes)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
ไตรฟอรีน
3
ปานกลาง
โพรคลอราซ
3
ปานกลาง
ไซโพรโคนาโซล
3
ปานกลาง
ไดฟีโนโคนาโซล
3
ปานกลาง
อีพ็อกซี่โคนาโซล
3
ปานกลาง
เฮกซาโคนาโซล
3
ปานกลาง
ไมโคลบิวทานิล
3
ปานกลาง
โพรพิโคนาโซล
3
ปานกลาง
ทีบูโคนาโซล
3
ปานกลาง
เดตราโคนาโซล
3
ปานกลาง
กลุ่มที่ 8 รบกวนการสังเคราะห์ผนังเซลล์ (Sterol biosynthesis in membranes)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
วาลิดามัยซิน
26
ยังไม่ทราบ
ไดเมทโทมอร์ฟ
40
ต่ำ-ปานกลาง
โอโพรวาลิคาร์บ
40
ต่ำ-ปานกลาง
วาลิฟินาเลท
40
ต่ำ-ปานกลาง
แมนดิโพรพามิด
40
ต่ำ-ปานกลาง
กลุ่มที่ 9 รบกวนการสังเคราะห์สารเมลานินในผนังเซลล์ (Melanin synthesis in cell wall)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
ไตรไซคาโซล
16.1
ยังไม่ทราบ
กลุ่มที่ 10 ชักนำการสร้างภูมิต้านทานในพืช (Host plant defense induction) สารในกลุ่มนี้ยังไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
กลุ่มที่ 11 ยังไม่ทราบการออกฤทธิ์ (Unknown mode of action)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
ไซม๊อกซานิล
27
ต่ำ-ปานกลาง
ฟอสอีทิล-อลูมิเนียม
33
ต่ำ
ฟอสฟอรัส เอซิด
33
ต่ำ
กลุ่มที่ 12 ไม่ได้จำแนก (Not classified) สารในกลุ่มนี้ เช่น น้ำมันแร่ น้ำมันอินทรีย์ และโปแตสเซี่ยมไบคาร์บอเนต เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้จะใช้มากในขบวนการผลิตเกษตรอินทรีย์
กลุ่มที่ 13 เข้าทำลายหลายจุด (Multi-site contact activity)
ชื่อสามัญ
กลุ่มรหัส
ความเสี่ยงต่อการดื้อ
คอปเปอร์ไฮดร๊อกไซด์
M1
ต่ำ
คอปเปอร์อ๊อกซี่คลอไซด์
M1
ต่ำ
คิวปรัสอ๊อกไซด์
M1
ต่ำ
กำมะถัน
M2
ต่ำ
แมนโคเซ็บ
M3
ต่ำ
โพรพิเนป
M3
ต่ำ
ไซเนป
M3
ต่ำ
แคปแทน
M4
ต่ำ
คลอโรทาโลนิล
M5
ต่ำ
อิมินอคทาดีน ทรีส (อัลบีสิเลท)
M7
ต่ำ
คำแนะนำกว้างๆ ในการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชเพื่อหลีกเลี่ยงการดื้อของเชื้อสาเหตุ
> ถ้าใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชมากกว่า 1 อย่าง สารที่นำมาผสมนั้นจะต้องมีวิธีการออกฤทธิ์ที่จ่างกัน
> ปฎิบัติตามคำแนะนำบนฉลากของสารเหล่านั้น เพราะสารบางชนิดอาจจะไปผสมกับสารบางกลุ่มไม่ได้
> เมื่อจำเป็นต้องมีการพ่นสารหลายครั้งในฤดูปลูก จะต้องสลับหรือผสมด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีวิธีการออกฤทธิ์ต่างกัน
> พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืชเมื่อเริ่มพบว่ามีการเกิดโรคได้ดีเมื่อมีการระบาดของโรคที่รุนแรงมากๆ อาจจะทำให้พืชเสียหายได้
> ใช้สารตามอัตราที่แนะนำบนฉลาก ถึงแม้จะผสมสาร หลายชนิดก็จะต้องใช้สารแต่ละชนิดตามอัตราที่แนะนำ
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือโรคพืชผัก และการป้องกันกำจัด
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
-
โรคเมล็ดด่างในนาข้าว
โรคเมล็ดด่างเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อหลายชนิด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้า…
-
ฮอร์โมนพืชคืออะไร?
ฮอร์โมนพืชเป็นสารอินทรีย์ที่มีความสำคัญยิ่งต่อกระบวนการเจริญเติบโตของพืช ทั้งการ…
-
4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง
4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง โรคราแป้งขาวแตงกวา (Powdery mildew) โรคราน้ำค้า…