3120 จำนวนผู้เข้าชม
ควรมีการวินิจฉัยศัตรูพืชให้ถูกต้องก่อนทำการเลือกสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
การเลือกสูตรของสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ใช้พ่น ควรเป็นสารที่เป็นสูตรที่ละลายน้ำแล้วเป็นเนื้อเดียวกัน หลีกเลี่ยงสูตรผงผสมน้ำ (WP) หรือ สูตรเม็ดผสมน้ำ (WG) เพราะอาจทำให้หัวฉีดและปั๊มของโดรนมีปัญหาอุดตันได้
ไม่ควรนำสารที่มีสูตร G (granule) มาแช่น้ำเพื่อทำการพ่น เพราะเป็นสูตรสำหรับใช้หว่านลงดินจะมีเปอร์เซ็นต์สารออกฤทธิ์ต่ำ เศษฝุ่น ผง หรือสารอื่นๆ ที่ทำละลายออกมาทำให้หัวฉีดและปั๊มของโดรนมีปัญหาอุดตันได้
ควรเรียงลำดับการผสมของสูตรสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ตามคำแนะนำดังนี้
ลำดับที่ 1 : ผงผสมน้ำ (WP)
ลำดับที่ 2 : เม็ดผสมน้ำ (WG)
ลำดับที่ 3 : เม็ดละลายน้ำ (SG)
ลำดับที่ 4 : ผงละลายน้ำ (SP)
ลำดับที่ 5 : สารแขวนลอยเข้มข้น (SC)
ลำดับที่ 6 : สารเหลวละลายน้ำ (SL)
ลำดับที่ 7 : สารละลายน้ำมันรูปอีมัลชั่นแขวนลอยในน้ำ (EW)
ลำดับที่ 8 : สารละลายน้ำมันรูปอีมัลชั่นเนื้อละเอียดแขวนลอยในน้ำ (ME)
ลำดับที่ 9 : สารละลายน้ำมัน (EC)
ลำดับที่ 10 : สารเสริมประสิทธิภาพ หรือสารแผ่กระจายจับใบ
น้ำที่ใช้ผสมสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชในการพ่นด้วยโดรน ควรทำการเตรียมมาจากแหล่งน้ำที่ใสสะอาดไม่มีตะกอนโคลนหรือเศษพืช และมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำเบื้องต้น ควรมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ประมาณ 5.0-6.5 หลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากบาดาล หรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ไม่ได้มีการตรวจสอบคุณภาพ
ก่อนผสมสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชต่างๆ หรือผสมกับสารที่มีส่วนผสมของธาตุโลหะหนัก ธาตุอาหารรองที่มีความเข้มข้น สารไคโตซาน หรือสารปฏิชีวนะ ในการพ่นด้วยโดรนควรมีการทดสอบความเข้ากันได้ของสาร (jar test) ที่จะนำมาผสมกันก่อนนำไปใช้ ซึ่งสารที่มีความไม่เข้ากันทางกายภาพจะมีลักษณะต่างๆ ดังนี้ การตกตะกอน การแยกชั้นของสาร การเกิดฟองเพิ่มมากขึ้น เกิดเป็นคราบน้ำมันลอยอยู่บนถัง เกิดการจับตัวเป็นครีมหรือเจล เกิดความร้อน หรือการเกิดแก๊ส เป็นต้น ถ้าเกิดความไม่เข้ากันของสารแล้วควรหลีกเลี่ยงการนำไปพ่น
ก่อนทำการบินควรทำการเช็คหัวพ่นสารที่โดรนทุกครั้งว่ามีการอุดตันหรือพ่นสารออกสม่ำเสมอกัน
ผู้ใช้ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการคำนวณอัตราการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยสารป้องกันกำจัดโรคพืชและแมลงศัตรู ฉลากจะระบุอัตราการใช้งานต่อน้ำที่ใช้ในถังพ่น (20 ลิตร) ผู้ใช้จะต้องหาอัตราการใช้น้ำของพืชในการพ่นสารต่อพื้นที่มาทำการคำนวณอัตราสารที่จะใช้ เช่น
อัตราน้ำที่ใช้พ่นของพืชเท่ากับ 40 ลิตรต่อไร่
ในการคำนวณสารให้เรานำอัตราที่แนะนำของสาร เช่น 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร มาคำนวณเป็นต่อพื้นที่
ดังนั้นต้องใช้สารปริมาณเท่ากับ 40 มิลลิลิตรต่อไร่
ถ้าอัตราการพ่นของโดรนเท่ากับ 3 ลิตรต่อไร่
ดังนั้น ต้องใช้สารปริมาณเท่ากับ 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 3 ลิตร สำหรับการพ่นสารของพืชในพื้นที่ 1 ไร่
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
-
โรคเมล็ดด่างในนาข้าว
โรคเมล็ดด่างเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อหลายชนิด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้า…
-
ฮอร์โมนพืชคืออะไร?
ฮอร์โมนพืชเป็นสารอินทรีย์ที่มีความสำคัญยิ่งต่อกระบวนการเจริญเติบโตของพืช ทั้งการ…
-
4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง
4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง โรคราแป้งขาวแตงกวา (Powdery mildew) โรคราน้ำค้า…
-
เฮียครับ เอา“ยาคุมไข่” ด้วยนะ
เกษตรกรหลายๆท่านคงเคยได้ใช้คำพูดนี้กับเวลาที่ไปซื้อสารกำจัดแมลงตามร้านจำหน่ายส…