4687 จำนวนผู้เข้าชม
“ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชากรคนไทยไม่ยอม คนไทยต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราต้องปลูก”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการโคกภูแล จ.นราธิวาส พ.ศ. 2536
จะเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องข้าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักของชาวไทยและเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ และอาชีพทำนาก็ยังคงเป็นอาชีพหลักของชาวไทยอีกเป็นจำนวนมาก พระองค์จึงทรงค้นหาวิธีที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการ
ทำนา เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของข้าวให้สูงขึ้น
โดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดทำแปลงข้าวทดลองขึ้นภายในสวนจิตรลดามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 และเมื่อได้ทดลองเพาะปลูกจนได้พันธุ์ข้าวที่ดีแล้วก็จะพระราชทานให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป รวมทั้งใช้เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทานในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ซึ่งพันธุ์ข้าวต่าง ๆ ที่จะพระราชทานนั้น ก็ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์จนมีคุณภาพดี เหมาะสำหรับที่ชาวนาจะนำไปขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพให้ให้สูงขึ้น
“ข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1”
เป็นข้าวหอมนุ่ม คุณภาพเมล็ดคล้ายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ให้ผลผลิตสูง
“ข้าวสังข์หยดพัทลุง”
เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่ปลูกใน จ.พัทลุง โดยปลูกได้ปีละ 1 ครั้ง นิยมกินแบบข้าวกล้อม ข้าวซ้อมมือ ซึ่งจะให้ประโยชน์มากกว่าข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือทั่วไป
เป็นข้าวที่มีคุณภาพการหุงต้มดี สุกแล้วหอม นุ่ม เหนียว
“ข้าว กข 41”
เป็นข้าวเจ้าที่ให้ผลผลิตสูง คุณภาพการสีดีได้ข้าวเต็มเมล็ด
“ข้าว กข 6”
เป็นข้าวเหนียวที่ได้รับการ ปรับปรุงพันธุ์โดยการใช้รัง สีชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์หุงสุกแล้วมีกลิ่นหอม
“ข้าวดอกพะยอม”
เป็นข้าวไร่ ข้าวเจ้าพันธุ์พื้นเมืองภาค เหนือที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ปลูกแซมกับต้นยางพาราได้
“ข้าวลืมผัว”
เป็นข้าวเหนียวที่โดดเด่นด้านรสชาติ มีกลิ่นหอม หากสีเป็นข้าวกล้อง เมื่อหุงสุกแล้วจะเคี้ยวกรุบ หนึบ ภายในนุ่มเหนียวอุดมไปด้วยสารอาหาร