หน้าแ... > ความร... > บทควา... > เคยเจ... > เคยเจอไหม มะม่วงสุกชอบเน่า ? เกิดจากสาเหตุใด 6835 จำนวนผู้เข้าชม เคยเจอไหม มะม่วงสุก ทำไมชอบเน่า ? คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก “มะม่วง” ผลไม้ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยเป็นกอบเป็นกำ ทั้งส่งออก และบริโภคภายในประเทศ หลายคนชอบทาน “มะม่วง” ด้วยรสชาติที่อร่อย หวาน มัน และยังมีคุณค่าทางอาหาร แต่จะมีใครรู้บ้างว่ามะม่วงที่เราได้ทานกันนั้น ต้องผ่านการปลูก การดูแล และการเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเกษตรกรมืออาชีพ ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดี และมีคุณภาพ หนึ่งในปัญหาที่สำคัญของเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงต้องพบเจอ นั่นคือ โรคแอนแทรคโนส ซึ่งเป็นหนึ่งสาเหตุ “อาการเน่าบนผลมะม่วง” โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) เกิดจากสาเหตุใด ? เกิดจากเชื้อราที่มีชื่อว่า Colletotrichum gloeosporioides Penz. เข้าทำลายได้ตั้งแต่ระยะใบ ดอก และผล อาการบนใบอ่อนเริ่มจากการเป็นจุดชุ่มน้ําและเปลี่ยนเป็นสีดํา บริเวณที่เป็นแผลจะหดตัวเล็กลงจนดึงใบให้บิดเบี้ยว อาการที่ใบแก่ขนาดของแผลจะค่อนข้างคงที่และเป็นเหลี่ยม เมื่อมะม่วงแทงช่อดอกเชื้อจะเข้าทําลายที่ช่อดอก ทําให้ช่อดอกดำ แห้ง และร่วง สำหรับอาการเน่าบนผลมะม่วงจะมี 2 ลักษณะ คือ อาการผลเน่าบนต้น และ อาการแฝงบนผลมะม่วงที่กำลังพัฒนาหรือผลมะม่วงแก่ที่ยังดิบในระยะเก็บเกี่ยว (จะยังไม่แสดงอาการเป็นแผลหรือผลเน่า) เมื่อมะม่วงแก่หลังเก็บเกี่ยวและใกล้สุก เชื้อจะเริ่มพัฒนาใหม่และทำให้ผลมะม่วงเกิดอาการผลเน่าเสีย จึงจัดว่าเป็นโรคในระยะหลังการเก็บเกี่ยว (post-harvest disease) แต่เชื้อได้เข้าฝังตัวบนผิวเปลือกของผมมะม่วง ตั้งแต่ผลอยู่บนต้นก่อนเก็บเกี่ยวแล้ว อาการแฝงบนผลมะม่วงดิบนี้ อาจทำให้เกษตรกรเข้าใจว่า ผลมะม่วงสมบรูณ์ ไม่มีโรคได้ แล้วไม่อยากให้ “มะม่วงผลเน่า” ต้องทำอย่างไร ? เมื่อรู้ว่าโรคแอนแทรคโนสมีการเข้าทำลายตั้งแต่ระยะใบ จึงต้องมีการป้องกันตั้งแต่ระยะนี้ แต่ก่อนจะป้องกันต้องกลับไปจัดการแปลง คือ1.การตัดแต่งทรงพุ่มให้ภายในโปร่ง อากาศถ่ายเท และแสงแดดส่องถึง จะช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชได้ 2.เลือกใช้สารเคมีป้องกันและรักษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้ได้ตั้งแต่ระยะใบจนถึงผลแก่ ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ไหนไปไม่ได้เลย คือ โค-ราซ ทำไมเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงถึงเลือกใช้ “โค-ราซ” มานานแล้ว เนื่องจากมะม่วงเป็นไม้ผลที่มีช่อดอก และมีความอ่อนไหวต่อสารเคมีในบางชนิด ซึ่งหากเลือกใช้สูตรไม่ถูกต้อง อัตราการใช้ไม่เหมาะสม และพ่นในช่วงเวลาไม่ดีแล้วนั้น จะทำให้มะม่วงเสียหายมากกว่าเดิม จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ โค-ราซ ตอบโจทย์เกษตรกรในทุกด้าน นั้นคือ 1.สารโพรคลอราซ สูตร EW ที่ปลอดภัยต่อช่อดอก สามารถพ่นผ่าดอกมะม่วงได้ ไม่ทำให้ช่อดอกดำ รัด หรือไหม้2.ออกฤทธิ์แทรกซึม ทำให้ประสิทธิภาพดีและป้องกันโรคได้นาน3.ละลายน้ำได้ง่าย ไม่ตกตะกอน สามารถผสมน้ำและพ่นได้ทันที4.อัตราการ “ดื้อยาต่ำกว่า” สารตัวอื่นๆ ที่ใช้ในการป้องกันโรคแอนแทรคโนสด้วยกันเอง ข้อควรระวังในการใช้สารกำจัดศัตรูพืช – ต้องสวมหน้ากากและถุงมือยาง ใส่เสื้อผ้าปิด ร่างกายให้มิดชิด – ควรต้องศึกษาทิศทางของลมก่อนการทำงาน – ห้ามสูบบุหรี่ขณะพ่นสารเคมี และควรล้างมือ ให้สะอาดก่อนการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร– เมื่อพ่นสารเคมีเสร็จแล้ว ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำชำระล้างร่างกาย ฟอกสบู่และสระผมให้สะอาดทุกครั้ง แพทย์– ภาชนะที่บรรจุสารเคมีฆ่าแมลง เช่น ขวด กระป๋อง ถุง ฯลฯ เมื่อใช้หมดแล้วให้ทำลายทิ้งเสีย โดยอาจจะใช้วิธีฝังกลบดินก็ได้ – เก็บสารเคมีปราบศัตรูพืชในที่ที่มิดชิด เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง โรคถอดฝักดาบในข้าวโรคถอดฝักดาบหรือโรคหลาว ปัจจุบันพบว่าเป็นโรคที่เป็นปัญหาและทำความเสียหายกับการปล… จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า "ตั๊กแตน" บุกไทยตั๊กแตนปาทังก้า และ ตั๊กแตนทะเลทราย ภัยร้ายที่ต้องเฝ้าระวังของเกษตรกรไทย โรคขอบใบแห้ง โรคขอบใบแห้งข้าว ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ เลิศสุชาตวนิช ภาควิชาโรคพืช… โรคขีดใบโปร่งแสงโรคขีดใบโปร่งแสง ในนาข้าว