8604 จำนวนผู้เข้าชม
โรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียน
ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ เลิศสุชาตวนิช
ภาควิชาโรคพืช คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์
สาเหตุโรค เชื้อรา Phytophthora palmivora
ลักษณะอาการ
เชื้อราจะเริ่มต้นเข้าทำลายระบบรากทำให้รากต้นทุเรียนเน่าเป็นสีน้ำตาล เมื่อรากเน่ามากขึ้นใบทุเรียนระดับปลายกิ่งจะแสดงอาการซีดเหลือง ชะงักการเจริญเติบโตและใบร่วงในเวลาต่อมา ใบระดับโคนกิ่งจะร่วงช้ากว่าบริเวณปลายกิ่ง ลักษณะอาการเน่าที่โคนจะปรากฏจุดฉ่ำน้ำและมักมีน้ำเยิ้มออกมา เมื่อใช้มีดถากดูจะพบว่ามีน้ำไหลทะลักออกมา เนื้อเยื่อเปลือกและเนื้อไม้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มแสดงอาการเน่าลุกลามรอบโคนต้นทำให้ทุเรียนใบร่วงหมดต้น ยืนต้นตายในเวลาต่อมา ในภาพที่มีความชื้นสูงและมีฝนตกชุก เชื้อราสามารถแพร่กระจายเข้าทำลายกิ่ง ใบ และ ผล บนต้นทุเรียนได้
การแพร่ระบาด
แพร่กระจายโดยทางลม น้ำ ดิน ใบ กิ่งพันธุ์ และผล โดยส่วนมากเชื้อราแพร่ระบาดทำลายผ่านทางรากในสภาพดินที่มีการระบายน้ำไม่ดี มีน้ำขัง และลุกลามสู่โคนต้น แต่ในฤดูฝนที่มีลมพายุและสภาพอากาศความชื้นสูงจะแพร่ระบาดทางลมเข้าทำลายใบ กิ่ง และผลได้
ปัจจัยที่ส่งเสริมการเกิดโรค
สภาพแวดล้อมเหมาะสม: สภาพอากาศมีความชื้นสูง ฝนชุก
ปลูกทุเรียนพันธุ์ทุเรียนอ่อนแอ: หมอนทอง
การจัดการสวนไม่เหมาะสม:
• ต้นทุเรียนไม่สมบูรณ์
• ใช้สารกำจัดวัชพืชเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณรอบโคนต้น
• การไว้ผลมากเกินไป
• การบังคับให้ออกผลนอกฤดูบ่อย
• แปลงปลูกมีการระบายน้ำไม่ดี
1. หมั่นติดตาม สำรวจโรครากเน่าและโคนเน่าในสวน
2. ตรวจวิเคราะห์และปรับปรุงบำรุงดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยเคมี และปูนขาว (ตามอัตราคำแนะนำหลังจากการตรวจวิเคราะห์ดิน) เพื่อให้ดินมีสภาพเป็นดินดีทั้งทางด้านกายภาพ ชีวภาพ และเคมี (pH = 6.5)
3. จัดทำร่องระบายน้ำในบริเวณสวนที่มีพื้นที่ต่ำ เพื่อไม่ให้มีน้ำท่วมขัง
4. ตัดแต่ง กิ่ง ใบ ดอก และผลที่เป็นโรค ออกนอกแปลงนำไปฝังกลบลึกๆ
5. เมื่อพบอาการของโรคในระยะเริ่มต้นหรือมีอาการเล็กน้อยให้รีบทำการรักษา
6. ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรค เช่น metalaxyl (เชื้อโรคส่วนมากดื้อต่อสารนี้แล้ว) (เมธามอร์ป), fosetyl aluminum (วอแรนต์), bordeaux mixture, copper oxychloride (คอปเปอร์-ไฮ), dimethomorph (โทมาฮอค), pyraclostrobin, myclobutanil + kresoxim methyl (เออร์กอน) เป็นต้น