4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง - ICPLADDA

4 โรคควรระวังหากปลูกพืชตระกูลแตง

20660 จำนวนผู้เข้าชม

โรคตระกูลแตง
โรคราแป้งขาวแตงกวา
1.โรคราแป้งขาวแตงกวา (Powdery mildew)
สาเหตุของโรค
เกิดจากเชื้อรา Oidium sp.
อาการของโรค
   โรคส่วนมากเริ่มเกิดที่ใบส่วนล่างก่อน  อาการที่เกิดเชื้อราเจริญบนผิวใบพืช ลักษณะคล้ายผงหรือฝุ่นแป้งสีขาวขึ้นปกคลุม เมื่อเชื้อราขึ้นคลุมไปหมด ใบจะค่อยๆ ซีดเหลืองและแห้งตายได้ในเวลาต่อมา โดยเฉพาะถ้าเป็นส่วนที่ยังอ่อนอยู่อาจจะตายได้ สำหรับผลแตงอาการโรคจะพบเกิดขึ้นน้อยกว่าบนต้นและใบ  โดยในผลถ้าเป็นในระยะผลอ่อนจะทำให้เกิดอาการแกร็น บิดเบี้ยว ผิวขรุขระ เสียรูปทรงได้ มักพบการระบาดในสภาพที่มีอุณหภูมิต่ำและความชื้นสัมพัทธ์ภายในอากาศต่ำ
การป้องกันและกำจัดโรค
  1. การกำจัดวัชพืชในบริเวณแปลงปลูกไม่ให้รกทึบและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเชื้อโรค
  2. การพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น ไตรอาไดมีฟอน (triadimefon) ไมโคลบิวทานิล (myclobutanil) โพรพิโคนาโซล (propiconazole) หรือ อะซ็อกซีสโตรบิน (azoxystrobin) เป็นต้น
  3. เลือกปลูกพันธุ์ที่มีความต้านทาน
โรคราน้ำค้างแตงโม (Downy mildew)
2.โรคราน้ำค้างแตงโม (Downy mildew)
สาเหตุของโรค
เกิดจากเชื้อรา Pseudoperonospora cubensis
อาการของโรค
   อาการโรคระยะเริ่มแรก บนใบปรากฏแผลฉ่ำน้ำ ต่อมาแผลจะขยายอยู่ในกรอบของเส้นใบ ทำให้รูปร่างแผลเป็นจุดเหลี่ยม ต่อมาแผลเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ในตอนเช้าที่สภาพอากาศมีความชื้นสูงจะพบเส้นใยของเชื้อราเจริญอยู่ลักษณะเป็นขุยสีขาวถึงเทา ตรงแผลบริเวณด้านใต้ใบ แผลจะขยายติดต่อกัน เป็นแผลขนาดใหญ่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือเทาดำ หากอาการรุนแรงจะทำให้ใบเหลืองและแห้งตายทั้งต้นได้ พืชที่เป็นโรคจะติดผลน้อย ผลมีขนาดเล็ก คุณภาพของผลจะลดลง หากเป็นโรคในระยะมีผลอ่อน จะทำให้ผลมีขนาดเล็ก และรูปทรงบิดเบี้ยว
การป้องกันและกำจัดโรค
  1. เลือกพันธุ์ไม้ที่สามารถต้านทานโรคราน้ำค้างได้
  2. ในการวางระยะปลูกพืชจะให้เหมาะสม เพื่อเป็นการลดความชื้นที่จะเกิดขึ้น
  3. การตัดแต่งส่วนที่มีอาการของโรคราน้ำค้างออกจากแปลงไปทำไปทำลายทิ้ง
  4. การพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น  เมทาแลกซิล (metaxly)  แมนโคเซบ (mancozeb) ไซมอกซานิล (cymoxanil) + แมนโคเซบ (mancozeb) เป็นต้น
โรคใบด่างแตงกวา (Cucumber mosaic disease)
3.โรคใบด่างแตงกวา (Cucumber mosaic disease)
สาเหตุของโรค
สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส Cucumber mosaic virus (CMV)
อาการของโรค
   อาการโรคจะเริ่มแสดงที่ใบอ่อน เส้นใบมีสีใส ใบหงิก ผิวเป็นคลื่น ขอบใบม้วนลง อาการจุดสีเขียวอ่อนหรือสีเหลืองกระจายทั่วใบ จากนั้นเปลี่ยนเป็นอาการใบด่างเป็นหย่อม สีเขียวอ่อนหรือสีเหลืองสลับสีเขียวเข้ม ใบบิดเบี้ยว และอาการที่ผลจะมีอาการด่างลาย เขียวซีด หรือขาวสลับกับสีเขียวเข้ม ผิวขรุขระ และอาจทำให้มีรสขม ถ้าอาการรุนแรงจะทำให้ต้นแคระแกร็น ผลผลิตลดลง  โรคสามารถถ่ายทอดเชื้อได้โดยการสัมผัส เมล็ด และแมลงพาหะ ในกลุ่มเพลี้ยอ่อน 
การป้องกันและกำจัดโรค
  1. การกำจัดต้นเป็นโรคและวัชพืชต่างๆในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดเชื้อไวรัส
  2. การพ่นสารป้องกันกำจัดแมลงพาหะ โดยเฉพาะเพลี้ยอ่อน  
  3. การปลูกพืชหมุนเวียน
โรครากปมบวบ (Root-knot disease)
4.โรครากปมบวบ (Root-knot disease)
สาเหตุของโรค
สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส Meloidogyne sp.
อาการของโรค
   พืชที่เป็นโรครากปม จะพบอาการที่พืชเติบโตช้า  เหี่ยว  เหลืองซีด แคระแกร็น  ผลผลิตลดลง หรือตาย  และอาการที่รากซึ่งเกิดลักษญะเป็นปุ่มปม รากปมที่เกิดขึ้นมานั้นมีลักษณะของการบวมโตออกโดยรอบจากภายในราก  ไม่เหมือนรากปมของพืชตระกูลถั่วที่เป็นปมหรือเม็ดติดอยู่กับระบบราก  รูปร่างของปุ่มปมมีลักษณะกลมรี  สีเหมือนรากปกติ เกิดได้ทั้งที่รากแก้ว  รากแขนง  และรากฝอย 
การป้องกันและกำจัดโรค
  1. ก่อนปลูกให้ไถดินตากแดดหลายๆ ครั้ง
  2. การปลูกพืชหมุนเวียนที่ไม่ใช่พืชอาศัย
  3. การควบคุมโดยชีววิธี ด้วยการใช้เชื้อรา Paecelomyces lilacinus หรือเชื้อราเห็ดเรืองแสง Neonothopanus nambi
””

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า