7757 จำนวนผู้เข้าชม
ข้าวคืออาหารหลักของคนไทย เป็นพืชที่ปลูกมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และเมื่อมีการปลูกมาก แน่นอนว่าแมลงศัตรูพืชก็ย่อมมีมากตามไปด้วย
ในบทความนี้เราจึงจะให้ความรู้กันว่า มีแมลงศัตรูพืชอะไรบ้างที่ชาวนาต้องระวัง เพราะทั้งหมดนี้อันตรายกับต้นข้าวมาก สามารถทำให้ผลผลิตเสียหายได้มากกว่าที่คิดอย่างแน่นอน
1.เพลี้ยไฟ
เพลี้ยไฟเป็นแมลงขนาดเล็กยาว 1-2 มิลลิเมตร ตัวเต็มวัยมีสีดำทำลายข้าวโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าวทำให้ปลายใบแห้ง ขอบใบม้วนเข้าหากัน ถ้าระบาดมากทำให้ข้าวตายทั้งแปลง
2.หนอนกอข้าว
ในประเทศไทยหนอนกอข้าวมี 4 ชนิด คือ หนอนกอสีครีม หนอนกอแถบลาย หนอนกอแถบลายสีม่วง และหนอนกอสีชมพู หนอนกอทั้ง 4 ชนิด ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืน มักพบบินมาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน ผีเสื้อหนอนกอสีครีม ตรงกลางปีกคู่หน้ามีจุดสีดำข้างละจุด ตัวหนอนสีขาวหรือสีครีม ผีเสื้อของหนอนกอแถบลายและหนอนกอแถบลายสีม่วง มีลักษณะคล้ายกันมาก แต่สามารถดูความแตกต่างระยะหนอน ตัวหนอนของหนอนกอแถบลาย หัวมีสีน้ำตาลอ่อน ส่วนหนอนกอแถบลายสีม่วง หัวมีสีดำ ส่วนผีเสื้อหนอนกอสีชมพู มีลำตัวอ้วนสั้น ส่วนหัวและลำตัวมีขนหนาปกคลุม ตัวหนอนมีสีเหลืองหรือชมพูปนม่วง
หนอนกอทั้ง 4 ชนิด ทำลายต้นข้าวเหมือนกัน คือ ตัวหนอนกัดกินภายในลำต้นข้าว ในข้าวที่ยังเล็กหรือข้าวที่กำลังแตกกอ จะเกิดอาการ “ยอดเหี่ยว” และแห้งตาย หากหนอนกอทำลายระยะข้าวตั้งท้อง หรือหลังจากนั้น ทำให้รวงข้าวมีสีขาว เมล็ดลีบทั้งรวง เรียกกว่า “ข้าวหัวหงอก” รวงข้าวที่มีอาการดังกล่าวจะดึงหลุดออกมาได้ง่าย
3. เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
เป็นแมลงปากดูดชนิดหนึ่ง ที่จะใช้ปากดูดกินน้ำเลี้ยงจากกาบใบของต้นข้าว เข้าทำลายต้นข้าวได้ตั้งแต่ช่วงเป็นต้นกล้าไปจนถึงตอนที่ต้นข้าวเริ่มแตกรวงแล้ว และสามารถเริ่มทำลายได้ทั้งช่วงที่เป็นตัวอ่อนและช่วงโตเต็มวัย
ลักษณะของต้นข้าวที่ถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลาย คือจะเหี่ยวแห้ง มีคราบเชื้อรา รวงข้าวไม่สวย และต้นข้าวสามารถตายได้
4. หนอนปลอกข้าว
ตัวหนอนเริ่มกัดกินผิวใบอ่อนของข้าวและจะทำปลอกหุ้มลำตัวไว้ภายใน 2 วัน ต่อมา โดยตัวหนอนจะเคลื่อนย้ายไปยังปลายใบข้าวและกัดใบตรงด้านหนึ่งของเส้นกลางใบ และใช้สารที่สกัดจากร่างกายยึดริมขอบใบทั้งสองข้างเข้าหากันเป็นปลอกหุ้ม เห็นเป็นรอยเยื่อสีขาวบางๆไว้ ตัวหนอนสามารถเคลื่อนย้ายไปทำลายข้าวต้นอื่น โดยอาศัยปลอกลอยน้ำไปยังข้าวต้นใหม่ และคลานขึ้นไปกัดกินใบข้าวใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าระบาดรุนแรงก็สามารถทำให้ข้าวชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น และแห้งตายเป็นหย่อมๆ ระบาดเป็นครั้งคราว โดยหนอนจะลอยไปตามน้ำ โดยลมช่วยพัดพาไป ทำให้แพร่ระบาดไปทั่วแปลงนา
5.หนอนห่อใบข้าว (หนอนม้วนใบข้าว)
ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืนหนอนมีสีเขียวใสปนเหลือง หัวสีน้ำตาล ทำลายใบข้าวโดยตัวหนอนจะใช้ใยเหนียวจากปากยึดขอบใบข้าวสองข้างติดกันตามความยาวของใบหุ้มตัวหนอนไว้ และอาศัยแทะกินส่วนที่เป็นสีเขียวของใบข้าวจนเหลือแต่เหยื่อบางๆ เป็นทางสีขาวไปตามความยาวของใบ การทำลายจะรุนแรงมากในแปลงที่ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูงหรืออยู่ในร่มเงาไม้ใหญ่ ใบข้าวถูกทำลายในระยะข้าวตั้งท้องอาจทำให้เมล็ดข้าวลีบ
วิธีป้องกันแมลงศัตรูข้าวเบื้องต้น
คัดเลือกพันธุ์ข้าวที่นำมาปลูก และเลือกรับเมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพราะแมลงศัตรูข้าวนั้นมีขนาดเล็กมาก ถ้าไม่ระวัง พวกมันอาจแฝงมากับเมล็ดพันธุ์ได้
และอย่าลืมหมั่นตรวจตราแปลงข้าวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีต้นข้าวต้นไหนถูกแมลงร้ายทำลาย หรือถ้ามี ก็จะได้รีบกำจัดเสียตั้งแต่เนิ่นๆ
ยังไม่พอ อย่าลืมเลือกใช้ “นาแดน-จี” และ “นาแดน-6 จี” สองคู่หูยาหว่านฆ่าแมลงคุณภาพ ที่จะมาช่วยคุณปราบแมลงตัวร้ายในนาข้าวของคุณด้วย ใช้เดี่ยวก็ได้ ใช้คู่กันยิ่งเวิร์ค!
นาแดน -จี:
นาแดน-จีเป็นสารกลุ่ม Nereitoxin analogue ประกอบด้วย Cartab hydrochloride 4% GR เอกลักษณ์ของตัวผลิตภัณฑ์คือถูกเคลือบมาด้วยเม็ดทราย จึงทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องผสมน้ำ ไม่ต้องกังวลเรื่องชื้นแฉะ หรือเหนียวติดมือ เพียงแค่นำไปหว่านที่ปริมาณ 3-5 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ไร่ (หลังจากหว่านข้าวไปแล้ว 20-30 วัน) เมื่อหว่านครั้งแรกเสร็จแล้ง ให้เว้นระยะไม่เกิน 1 เดือน แล้วหว่านซ้ำอีก
ผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์แบบดูดซึม โดยจะทำให้แมลงดูดกินน้ำเลี้ยง หรือกัดกินพืชไม่ได้ จนขาดอาหารตายในที่สุด สามารถฆ่าแมลงได้หลายชนิด
นาแดน-6 จี:
เป็นสารกลุ่ม Nereitoxin analogue + Carbamate ประกอบด้วย Cartap hydrochloride 3% + Fenobucarb 3% GR เคลือบเม็ดทรายมาเช่นเดียวกับนาแดน-จี จึงทำให้ใช้งานง่ายเช่นเดียวกัน ไม่ชื้น ไม่เหนียว ไม่เป็นฝุ่นฟุ้ง
สามารถกำจัดแมลงได้หลากหลายชนิด ทั้งหนอน ทั้งเพลี้ย โดยออกฤทธิ์แบบดูดซึม ถูกตัวตาย และกินตาย
ในการใช้งานไม่ต้องผสมผลิตภัณฑ์กับอะไร แต่ให้นำผลิตภัณฑ์เปล่าๆไปหว่านในนาข้าวได้เลย ปริมาณที่เหมาะสมคือ ผลิตภัณฑ์ 3-5 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ไร่ และให้หว่านยาครั้งแรกหลังจากที่หว่านเมล็ดข้าวไปแล้วประมาณ 20-30 วัน หลังจากนั้น ให้ทิ้งระยะอีกไม่เกิน 30 วัน แล้วหว่านยาซ้ำอีกครั้ง
ข้อแนะนำในการใช้ “นาแดน-จี” และ “นาแดน-6 จี”
- สวมถุงมือและหน้ากากทุกครั้งเวลาใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผลิตภัณฑ์สัมผัสถูกร่างกาย แต่ถ้าหากสัมผัสถูกร่างกายแล้วและเกิดอาการระคายเคือง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- เนื่องจากบรรจุภัณฑ์เป็นถุงกระสอบ ถ้าหากเปิดถุงแล้วยังใช้ไม่หมด ควรมัดปากถุงให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาหว่านเสื่อมสภาพ หรืออีกวิธีคือ ให้แบ่งตัวยาหว่านเก็บใส่ถังที่มีฝาปิดมิดชิด แล้วนำถุงกระสอบทิ้งไปเลยก็ได้ จะเก็บรักษาได้ง่ายกว่า
- เก็บผลิตภัณฑ์ให้ห่างไกลจากเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง ให้เลือกที่ที่มิดชิด เช่น เรือนเพาะชำ หรือตู้ที่มีประตูปิดสนิท
- บรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้วควรนำไปทิ้งขยะแยะประเภทให้เรียบร้อย ห้ามทิ้งลงแหล่งน้ำหรือตามทรัพยากรธรรมชาติใดๆเด็ดขาด
- หลังใช้ผลิตภัณฑ์เสร็จแล้ว ให้ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุกครั้ง
- กรณีที่ผลิตภัณฑ์อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ อย่าเพิ่งใช้ ให้รีบติดต่อผู้จำหน่ายในทันที
- อ่านคำแนะนำให้เข้าใจก่อนเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ หากมีข้อสงสัยใดๆให้ปรึกษาทางผู้จำหน่ายก่อน
- ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานอย่างเคร่งครัด